27 กันยายน 2554

25 วิธีที่จะทําให้มีความสุขในชีวิต

ถ้าอยากมีความสุข คุณต้องรู้จักซึมซับความรู้สึกอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความโศกเศร้าหรือความโกรธที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งยอมรับในสิ่งที่คุณมีและสถานภาพที่คุณเป็น เพื่อจะได้มีความสุขกับชีวิตมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากคุณหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมจึงไม่มีความสุขทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ลำบาก ยาก แค้นอะไร ลองอ่านข้อคิดต่อไปนี้เพื่อจะได้ระลึกว่า "เราเองก็มีชีวิตที่ดีทีเดียว"

1 คิดใหม่ ใช้ชีวิตราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย คนที่ป่วยหนักหรือเผชิญกับอุบัติเหตุใกล้ตาย เห็นโศกนาฏกรรมหรือสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักมักมีมุมมองชีวิตที่ต่างออกไป หลายคนบอกว่าจะไม่ปล่อยเวลาให้สายเกินไปอีกแล้ว จะท่องเที่ยวไปในโลกกว้างหรือติดต่อพบปะเพื่อนฝูง เราทุกคนก็ควรตระหนักว่าอาจไม่มี "พรุ่งนี้" ก็ได้

2 จดบันทึก เขียนเล่าถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณทุกวัน การจดบันทึกยังช่วยแก้ปัญหาและขจัดเรื่องไม่ดีที่รกสมองออกไปได้ด้วย ลองเริ่มเขียนตั้งแต่วันนี้ รับรองได้ผลแน่

3 มองในแง่มุมอื่นบ้าง ลองคิดว่าคุณอยากให้คนอื่นจดจำคุณในด้านใด หรือหากวันหนึ่งต้องเล่าเรื่องชีวิตตนเองให้หลานๆ ฟัง คุณจะเล่าอะไร คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์และถูบ้านทุกวันหรือ แล้วที่คุณพลาดการแสดงละครของลูกที่โรงเรียนเมื่อปีที่แล้วเพราะติดประชุม เล่า ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อมองย้อนกลับไป

4 อย่าให้เรื่องเล็กน้อยกวนใจ ไม่คุ้มหรอกที่จะหัวเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หากคนขับรถคันข้างๆ ไม่ยอมให้คุณเบียดเข้าเลนก็ยิ้มและโบกมือให้เขาไปเลย แล้วจะหงุดหงิดไปทำไมหากพลาดรถเที่ยวเช้า หากาแฟดื่มขณะนั่งรอคันต่อไปดีกว่า

5 ทำงานยากให้เสร็จ ลงมือได้แล้วอย่าผัดวันประกันพรุ่ง โอ้เอ้ไปก็มีแต่ทำให้หนักใจเหนื่อยกาย ไหนๆ งานนี้ก็ต้องทำโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ก็น่าจะทำให้เสร็จแทนที่จะมัวกังวลและคิดจนรกสมอง

6 เลิกทำตัวจำเจ ชีวิตคงหน้าเบื่อหากทำอะไรซ้ำซากทุกวันทุกสัปดาห์ เราน่าจะมีเรื่องแปลกใหม่มาทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยบ้าง ถ้าเอาแต่นอนตื่นสายทุกวันอาทิตย์ก็น่าจะลุกขึ้นมาแต่เช้าไปกินอาหารอร่อยๆ นอกบ้าน หรือไปตลาดแล้วจ่ายกับข้าวมาทำอาหารมื้ออร่อยกินกันที่บ้าน

7 อย่าเปรียบตัวเองกับคนอื่น ใครจะมีสระว่ายน้ำ เครื่องเสียงแพงๆ รุ่นล่าสุด หรือรถหรูใหม่เอี่ยมไม่ต้องสนใจ หากดูให้ดีๆ คุณอาจพบว่าคนพวกนี้ต้องทำงานสัปดาห์ละเจ็ดวัน ไม่มีเวลาเจอหน้าคนในบ้านหรือเพื่อนฝูง หรืออาจต้องผ่อนหนี้สินไปอีกหลายสิบปี แล้วชีวิตอย่างนี้ดีจริงหรือ

8 กำจัดข้าวของรกในบ้าน เสื้อผ้าที่ไม่เคยใส่มาเป็นปี เครื่องครัวที่ตั้งอยู่ตรงนั้นจนน้ำมันจับเป็นคราบหนา ไหนจะของเล่น หนังสือเก่า และเครื่องเรือน ยกไปบริจาคเถิด นอกจากจะได้บุญแล้ว ชั้นวางของและห้องต่างๆ ในบ้านจะโล่งและเป็นระเบียบมากขึ้น

9 รู้จักเอ่ยคำว่า "ไม่" ไม่ต้องลงมือทำเองทุกเรื่องเพราะชีวิตคุณก็วุ่นวายพออยู่แล้ว ไหนจะต้องทำเรื่องโน้น สะสางเรื่องนี้ ปล่อยให้สมองมีที่ว่างเพื่อคิดหรือทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง

10 รดน้ำต้นรัก รักคู่ครองของคุณอย่างที่เขาเป็น ที่คุณคิดว่าเขาเปลี่ยนไปนั้นเป็นความจริงหรือ (คิดให้ดีก่อนตอบ) ของทุกอย่างเมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่งก็ต้องบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมเป็น ธรรมดา ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาก็เช่นกัน ต้องมีการดูแลใส่ใจกันบ้าง

11 อย่าให้ความคุ้นเคยกลายเป็นไม่ไว้หน้า หากคุณให้เกียรติเพื่อนหรือผู้อื่น คู่ครองหรือคนในครอบครัวคุณก็ควรได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน และคุณเองก็ควรได้เกียรติจากคนในครอบครัวเช่นกัน

12 มอบความรักให้ครอบครัวและเพื่อนๆ อย่าเขินที่จะบอกคนเหล่านี้ว่าคุณรักพวกเขาตรงไหน เมื่อเขาทำอะไรดีๆ ให้ก็กล่าวคำชื่นชมบ้าง คำชมเล็กๆ น้อยๆ ไม่เคยทำร้ายใคร

13 อย่ารับปรับทุกข์ทุกเรื่อง หากปัญหาของเพื่อนเริ่มมีผลกระทบต่อตัวคุณ ก็ไม่ต้องฝืนทำตัวเป็นเสาหลักให้เขาพิงอยู่เรื่อยไป ให้เพื่อนหัดแก้ปัญหาและก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยตัวเอง

14 ติดต่อเพื่อนเก่า คุณอาจขาดการติดต่อกับเพื่อนไปนาน แต่ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะโทรศัพท์ ส่งอีเมล์ หรือเขียนจดหมายถึงเขา และนานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้คุยกับป้า ท่านอยากได้ยินเสียงคุณจะแย่แล้ว

15 บำรุงอารมณ์ด้วยสีเขียว ดอกไม้สดจากสวน หรือตื่นแต่เช้าไปตลาดซื้อดอกไม้ ผักผลไม้ราคาไม่แพงมาแต่งบ้านให้สดใส คุณเคยมีสวนกระถางในบ้านไม่ใช่หรือ นำกลับมาอีกครั้ง แล้วบ้านคุณจะชุ่มชื่นมีชีวิตชีวาแน่นอน

16 ไปทะเลกันดีกว่า ทิวทัศน์กว้างไกล สายลม เกลียวคลื่น สองเท้าเปลือยเปล่าย่ำบนผืนทราย และแสงแดดระยับ ไม่มีอะไรทำให้จิตใจเริงรื่นชื่นบานได้ดีกว่านี้อีกแล้ว

17 สร้างสรรค์ผลงาน จะเป็นภาพเขียน งานปั้น เย็บปักถักร้อย อบขนม จัดสวน หรืออะไรก็ได้

18 สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกไปข้างนอกหรือเปิดหน้าต่างกว้างๆ สูดหายใจให้เต็มปอด คุณจะรู้สึกว่าอากาศเสียถูกขับออกจากตัว

19 ออกไปเดินเล่น การออกกำลังเบาๆ จะช่วยเติมชีวิตชีวาให้คุณทั้งร่างกายและจิตใจตั้งแต่เดินเล่นครั้งแรกเลยที เดียว การออกกำลังสม่ำเสมอจะทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าและรู้สึกดีขึ้นทุกวัน

20 ดูหนังตลกและหัวเราะให้สบายใจ ร้านให้เช่าวิดีโอมีหนังเบาสมองให้เลือกมากมาย จะเป็นหนังไทยหรือฝรั่งไม่สำคัญ ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาบ้าง

21 ย้ายเครื่องเรือนและของแต่งบ้าน หรืออาจทาสีห้องและผนังใหม่ด้วย รับรองว่าบรรยากาศที่ได้คุ้มค่าไม่แพ้วันหยุดเลยทีเดียว

22 รอคอยสิ่งดีๆ เช่นวันหยุดพักร้อน ออกไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง หรือแม้แต่ไปนวดแผนโบราณ

23 ชวนเพื่อนมากินมื้อค่ำ จัดห้องและโต๊ะอาหารที่บ้านให้แปลกไปจากเดิม เสิร์ฟเครื่องดื่มค็อกเทลหรือแชมเปญ เปิดเพลงเสริมบรรยากาศ สนุกกับการเตรียมอาหาร ทุกคนจะปลาบปลื้มหากเห็นว่าคุณทุ่มสุดฝีมือ แล้วค่ำคืนนั้นก็จะครึกครื้น

24 ยิ้มไว้ ยิ้มเป็นโรคติดต่อ ไม่เชื่อก็ลองยิ้มดูสิ

25 ทำให้คนอื่นมีความสุขบ้าง ทำเพื่อตัวเองมามากแล้วก็น่าจะทำเพื่อคนอื่นบ้าง เริ่มจากอดกลั้นไม่บีบแตรไล่รถที่วิ่งเหมือนเต่าคลาน หรืออาสาช่วยงานกุศล เพียงเท่านี้ การใช้ชีวิตให้สุดคุ้มก็ไม่ยากอย่างที่คิด

ที่มา..http://www.everykid.com/worldnews3/2...ess/index.html

26 กันยายน 2554

คิดบวก รู้จักพอ


คำของอี้หมิงที่กล่าวเอาไว้ว่า
"สำหรับผู้ที่รู้จักพอ แม้จะยากจนข้นแค้นก็ยังมีความสุข ผู้ที่ไม่รู้จักพอแม้จะร่ำรวยมียศถาบรรดาศักดิ์ก็ยังมีความทุกข์"


หากต้องการมีความสุข จะต้องมีความพึงพอใจในสิ่งที่ตนเป็นและมีอยู่
สามารถชื่นชมกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันได้ โดยไม่คิดน้อยใจหรือคิดว่าตนเองต่ำต้อยด้อยค่า


ผู้ที่จะมีความสุขได้นั้นคือผู้ที่พอใจในสิ่งที่ตนเองมี
ขอเพียงแต่มีความพยายามในการทำให้ประสบความสำเร็จก็เพียงพอ
ไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนกับสิ่งที่ไม่สามารถจะหามาได้ และทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด


ไม่หวังผลเลอเลิศจนเกินความสามารถของตนเอง
รู้จักกำหนดขอบเขตของความปรารถนา


สิ่งใดที่ควรได้ควรมี ก็จงพยายามทำให้สำเร็จ
สิ่งใดเกินกำลัง ก็จงยอมรับว่าแม้ยังไม่สามารถไขว่คว้ามาได้ ก็จะหาหนทางในคราวต่อไปเมื่อโอกาสมาถึงพร้อม


และที่สำคัญก็คือ
อย่าหาทุกข์ใส่ตัว ใช้ชีวิตอย่างราบเรียบสมถะ มีความขยันอดทน
และไม่อายทำกิน อย่าก่อหนี้ก่อสินเพิ่มขึ้นดั่งพุทธภาษิตสอนใจให้คิดว่า


"เข้านอนโดยไม่มีอาหารค่ำ ดีกว่าตื่นขึ้นมาพร้อมกับมีหนี้สิน"
เพราะการมีหนี้สินมากเกินไป อาจสร้างปัญหาในระยะยาว จนไม่อาจจะลืมตาอ้าปากได้ในโอกาสต่อไป
เพราะการมีหนี้สินมากเกินไป อาจสร้างปัญหาในระยะยาว จนไม่อาจจะลืมตาอ้าปากได้ในโอกาสต่อไป

ที่มา : teenee.com

วิธีการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข 9 ประการ

ความสุขเริ่มต้นที่ตัวเรา
ความสุขเริ่มต้นที่ตัวเรา

ในชีวิตของคนเรามีเรื่องต่าง ๆ มากมายให้ต้องประสบพบเจอ แถมเรื่องบางเรื่องยังเป็นเรื่องที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าอีกต่างหาก ซึ่งนี่เองอาจจะเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผลเสียทั้งต่อสภาพร่างกายและจิตใจ เรื่องเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นเกิดกับตัวคุณอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงขอนำเสนอวิธีการดี ๆ ที่สามารถช่วยให้คุณจัดการกับชีวิตและปัญหาที่เกิดขึ้นได้ มาดูกันว่าวิธีการที่ว่านั้น มีอะไรบ้าง และจะช่วยให้ชีวิตคุณสงบสุขได้อย่างไร ตามมาดูกันเลย

ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน
กำหนดระยะเวลาให้มีขอบเขต
1. กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน

การกำหนดระยะเวลานี้ จะช่วยให้คุณสามารถแบ่งเวลาให้มีความเหมาะสมและลงตัวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องการเรียน หรือเรื่องใด ๆ ก็ตามแต่ การจัดสรรเวลาจะมีประโยชน์อย่างมาก ที่สำคัญเมื่อคุณแบ่งเวลาได้แล้ว ก็จะทำให้คุณไม่รู้สึกกังวล หรือเกิดความครียดใด ๆ ขึ้นเลย

2. หาวิธีให้ร่างกายได้พักผ่อน
การพักผ่อนถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายจากหน้าที่ที่คุณต้องรับผิดชอบได้มากเลยทีเดียว ลองหากิจกรรมที่คุณชอบและถนัด เช่น ไปออกกำลังกาย อ่านหนังสือ เล่นโยคะ ฯลฯ เหล่านี้จะช่วยได้มากเลยล่ะ

3. อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
เรื่องเล็กน้อย ยิบย่อย ก็ไม่ควรนำมาใส่ใจแต่อย่างใด ปล่อยวางไปซะบ้าง ไม่อย่างนั้น จะทำให้เกิดความเครียดตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวคุณอย่างยิ่ง

4. ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม
บางครั้งการรีบร้อนมากเกินไป อาจไม่ส่งผลดีเท่าที่ควร ดังนั้นแล้ว ลดสปีดลงสักนิด ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ พิจารณา เพื่อให้เกิดความรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถจัดการงานต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น

5. เก็บกวาดข้าวของซะบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงานหรือที่บ้าน หากคุณมีสิ่งของที่วางระเกะระกะ กระจัดกระจายอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางแล้วล่ะก็ ทำการปัดกวาด เช็ดถู เก็บข้าวของนั้น ๆ โดยไว เพราะเมื่อคุณเก็บกวาดเสร็จแล้ว จะทำให้คุณมีความคล่องตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้น จะหยิบจับอะไรก็สะดวก

ความสุขเริ่มต้นที่ตัวเรา
ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน
6. ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานซะบ้าง

ถ้าชีวิตมัวแต่จมปลักอยู่กับเรื่องเครียด ๆ มากจนเกินไป จะทำให้คุณมีแต่แย่ลงและแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้นแล้ว อะไรก็ตาม
ที่สามารถสร้างความบันเทิงให้กับตัวคุณได้ ก็หามาใส่ตัวเองซะบ้าง ชีวิตนี้จะได้มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม

7. หลีกหนีจากโลกแห่งความวุ่นวาย

หากงานที่ทำมีความยุ่งยาก ซับซ้อน ชวนวุ่นวายชีวิตมากมาย ก็ขอให้รีบ ๆ เคลียร์งานนั้น ๆ แล้วหาเวลาออกไปพักผ่อนซะบ้าง จะออกไปเที่ยว ไปดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ฯลฯ ก็เป็นทางออกที่น่าสนใจเช่นกัน

8. ตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเต็มที่

ประเภทที่ว่าชอบทำอะไรหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ขอให้เลิกทำแบบนั้นซะ เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่มีสมาธิ(Meditation)กับสิ่งใดเลย
เผลอ ๆ อาจจะทำให้งานที่ทำไม่มีประสิทธิภาพ แถมยังส่งผลให้สภาพจิตใจย่ำแย่หนักไปกว่าเดิมอีกต่างหาก

9. จัดการกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิต

ขอให้จำเอาไว้เสมอว่า "ทุกปัญหา ย่อมมีทางออก" ไม่ว่าปัญหาที่เข้ามาในชีวิตจะมีความรุนแรงต่อสภาพจิตใจมากน้อยขนาดไหน ก็ขอให้ใจเย็น ๆ คิดอย่างรอบคอบ ค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละขั้น ๆ หรืออาจจะปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์ด้วยก็ได้ จะสามารถช่วยแก้ปัญหานั้น ๆ ได้มากเลยทีเดียว

ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ล้วนแล้วแ
ต่เป็นวิธีการดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ และทำให้คุณเกิดความสบายใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ลองนำไปปรับใช้ดูก็ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะจ๊ะ



http://www.dmc.tv/pages/scoop/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82.html
cradite:

16 กันยายน 2554

9 วิธีเลือกคบเพื่อน

1...อย่าลืมวันเกิดเพื่อนซี้เด็ดขาด(ถ้าไม่ซี้ลืมได้)

ทำอย่างไรก็ได้เพื่อกันลืม เช่น วงกลมวันเกิดเพื่อนในปฏิทินเขียนติดไว้หน้ากระจก หรือใช้วิธีไฮเทคด้วยการบันทึกไว้ในมือถือ เมื่อถึงวันเกิดเพื่อน เจ้ามือถือก็จะส่งเสียงเตือนให้คุณรู้เอง

++
2...ซื่อสัตย์ต่อมิตรภาพ

อย่างทิ้งเพื่อนสุดซี้ของคุณให้เดียวดาย แม้ว่าคุณอยากมีเพื่อนใหม่ที่เลิศเลอแค่ไหน เพราะคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า เพื่อนใหม่จะนิสัยดีเหมือนเพื่อนซี้หน้าเดิม หากอยากมีเพื่อนใหม่หรืออยากเข้ากลุ่มใหม่ ก็ดึงเพื่อนของคุณไปด้วยสิ

++
3...อย่านินทาเพื่อนทั้งต่อหน้าและลับหลัง

เพราะการกระทำแบบนี้ไม่เจ๋งสักนิด และคุณเองนั่นแหละที่อาจโดนขับออกจากกลุ่ม

++
4...หากเพื่อนกำลังเศร้าพยายามทำให้เธอยิ้มได้

เช่น ปลอบใจ หรือจะกอดก็ไม่ว่าเพราะการสัมผัสทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้นได้ ถ้ายังไม่ได้ผล คิดดูซิว่ากิจกรรมที่เพื่อนคุณชอบคืออะไร แล้วชวนไปทำด้วยกัน

++
5...คงไม่มีใครชอบทะเลาะกับเพื่อน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ คุณเองควรเป็นฝ่ายยุติเรื่องราว


ให้เหตุผลที่ดีกับเพื่อนว่า คุณต้องการอะไรและถามด้วยว่าเพื่อน ไม่เข้าใจคุณตรงจุดไหนจะได้หาวิธีประนีประนอม

++
6...คุณต้องพร้อมให้การแนะนำอย่างตรงไปตรงมา

แต่ใช้คำพูดที่ไม่หักหาญน้ำใจ หากเพื่อนคุณใส่เสื้อเขียวตัวพอง กางเกนขาบานสีแดง ซึ่งดูเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากเล้าไก่ คุณคงไม่บอกเธอไปตรงๆแบบนั้น อาจบอกเธอว่าเธอใส่เสื้อยืด กางเกนขายีนดูดีกว่าเยอะเลย

++
7...เชื่อใจเพื่อนซี้แสนดีของคุณเถอะ

ถ้าคุณไว้ใจเธอถึงขั้นบอกความลับของคุณกับเธอแล้ว แน่ใจได้ว่าเธอจะเชื่อใจและพูดกับคุณได้ทุกเรื่องเช่นกัน

++
8...ถ้าเพื่อนคิดว่ากำลังเล่าเรื่องตลกที่สุดให้คุณฟัง

แต่คุณไม่ขำ ขอให้หัวเราะกับมุขฝืดๆนั้นหน่อย เพราะอย่างน้อยเพื่อนคุณก็ได้พยายามแล้ว

++
9...เรื่องบางเรื่องที่เพื่อนเล่าให้ฟัง


แล้วอยากให้คุณรู้เพียงคนเดียว อย่าไปเล่าให้คนอื่นฟังเชียวนะ เพราะเขาอาจเห็นเป็นเรื่องสนุก นำไปเล่าต่อ ทีนี้แหละ ใครต่อใครคงรู้เรื่องเพื่อนคุณกันหมด

และอีกอย่าง1ที่ลืมไม่ได้คือไม่ควรดูคนแต่ภายนอกนะจ๋ะ




ฝากไว้อีกนิดน๊าส์

---- ความคิดสมัยอนุบาล
เพื่อนที่ดี คือ
คนที่ให้สีเทียนสีแดงกับคุณ
เมื่อมีเหลือแต่สีเทียนสี ดำทะมึน

............

---- ความคิดสมัย ป.1
เพื่อนที่ดีคือคนที่ไปห้อง น้ำเป็นเพื่อนคุณ
แล้วก็จับมือคุณระหว่างเดินผ่านห้องโถงที่น่า กลัว
....................

---- ความคิดสมัย ป.2

เพื่อนที่ดี
คือคนที่ทำให้ คุณเข้าเรียนคลาสที่ไม่อยากเรียน (มั้ง)
.....................

---- ความคิด สมัย ป.3
เพื่อนที่ดีคือคนที่แบ่งอาหาร กลางวันให้คุณ
เมื่อคุณลืมกล่องข้าวไว้ที่บ้าน = = ?

...............

---- ความคิด สมัย ป.4

เพื่อนที่ดี
คือคนที่ยอม เปลี่ยนคู่เต้นในวิชาลีลาศ
เมื่อคุณไม่อยากจับคู่เต้นอยู่กับนิกจอมลามก หรือเอ็มกลิ่นแรง

............

---- ความคิด สมัย ป.5

เพื่อนที่ดี
คือคนที่เผื่อ ที่นั่งให้คุณเมื่อถึงมื้อเที่ยง
...........

---- ความคิดสมัย ป.6

เพื่อนที่ดี
คือคนที่พาคุณไปหา คนที่คุณตกหลุมรัก
เพื่อขอให้เค้ามาเต้นรำกับคุณ
เผื่อว่าเค้าปฏิเสธคุณ จะได้ไม่ต้องอายไง


------------------------------------------ -----------------------------------------

---- ความคิด สมัย ม.1
เพื่อนที่ดี คือคนที่ให้คุณ ลอกรายงานสังคม
.............

---- ความคิด สมัย ม.2
เพื่อนที่ดี คือคนที่ช่วย คุณทำรายงานกลุ่ม
และไม่เคยนินทาคุณลับหลัง

...................

---- ความคิด สมัย ม.3
เพื่อนที่ดี
คือคนที่เปนที่ ปรึกษาปันหาหัวใจให้คุณ และอินกับคุณในทุกๆอารมณ์

....................

---- ความคิด สมัย ม.4 คือ คนที่ยอมเปลี่ยนวิชาเรียน
เพื่อที่คุณจะได้มีเพื่อนนั่งกิน ข้าว

................

---- ความคิด สมัย ม.5

เพื่อนที่ดี
คือคนที่ยอมให้ คุณขับรถใหม่ของเค้า
ช่วยคุยกะพ่อแม่ของคุณเวลาคุณมีปัญหา
แล้วก็คอย ปลอบคุณตอนที่คุณเลิกกับแฟน
..............

---- ความคิด ตอน ม.6

เพื่อนที่ดี
คือคนที่ช่วยคุณ เลือกมหาวิทยาลัยที่จะเข้า
แล้วก็บอกกับคุณว่าคุณเข้าที่นั่นได้แน่
แถม ยังช่วยคุยกับพ่อแม่ให้ยอมให้คุณไปเรียนมหาลัยนั้นอีกด้วย

..........

---- ในงานจบการศึกษา
เพื่อนที่ดี ของคุณ คือคนที่ร้องไห้เงียบๆ
ในใจ แล้วก็แบ่งปันรอยยิ้ม กว้างๆ ให้คุณ
หน้าร้อนหลังจบ ม.6
เพื่อนที่ดีคือคนที่ช่วยคุณล้างขวด หลังงานปาร์ตี้
ช่วยคุณแอบย่องออกจากบ้านตอนที่คุณตกลงกับพ่อแม่ไม่ได้
ทำให้คุณกับแฟนกลับมาคบกันอีก ช่วยคุณเก็บของเพื่อย้ายไปมหาลัย
แล้วก็กอด คุณอย่างเงียบๆ มองคุณด้วยแววตาที่ขุ่นมัว
พร้อมกับความทรงจำ 18 ปีที่ผ่าน มา
ให้กำลังใจคุณในทางที่คุณเลือกเดินเหมือน 18 ปีที่ผ่าน มา

...............................

และตอน นี้
เพื่อนที่ดี
ยังคงเป็นคนที่ ให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
จับมือของคุณเมื่อคุณกลัว
ช่วยคุณต่อสู้ กับสิ่งที่พยายามเอาเปรียบคุณ
คิดถึงคุณตลอดเวลาที่คุณไม่อยู่ เตือนคุณใน สิ่งที่คุณลืม
ช่วยคุณผ่านอดีตแต่ก็เข้าใจเมื่อคุณอยากอยู่กับอดีตอีกซัก นิด
อยู่กับคุณเพื่อให้คุณมีความมั่นใจ หรือไปไกลๆ คุณซักพัก
เพื่อให้ คุณได้มีเวลากับตัวเอง ช่วยคุณแก้ไขความผิดพลาด
ช่วยคุณจัดการกับความกดดัน ทั้งหลาย ยิ้มให้คุณเมื่อยามคุณเศร้า
ช่วยให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น และอย่าง สำคัญที่สุด คือ ?รักคุณ?

.....................

ส่งความ รู้สึกนี้ ให้
เพื่อนเก่า และเพื่อนใหม่
และ
เพื่อนที่อยู่กับคุณตลอด (ยังไม่ร้องไห้ ใช่มั้ย ?
ยังมีต่ออีกนะ)
ขอบคุณสำหรับความ เป็น
เพื่อน ไม่ว่าเราจะไป ถึงจุดไหน

หรือเรากลายเป็นอะไร จะไม่มีวันลืมคนที่ช่วยให้เราไปถึงจุด นั้น

..............

ไม่มีการผิดเวลา ที่จะโทรศัพท์ หรือส่งข้อความ
เพื่อบอกเพื่อนของคุณว่า คุณคิดถึงพวกเค้า ขนาดไหน
หรือว่าคุณรักพวกเค้าขนาดไหน

...............

คุณรู้ว่าคุณ เป็นใคร
ส่งความรู้สึกนี้ไปให้คนบางคนที่คุณอยากจะนึกถึง
ดังนั้น ส่ง เมล์นี้ให้เพื่อนคุณทุกๆ คน และรอคอยให้เค้าส่งกลับ

.................................

ถ้าคุณรักใครซัก คน ก็บอกเค้าซะ
จำไว้เสมอเลยนะว่าพูดสิ่งที่คุณคิด สิ่งที่คุณหมายถึง
อย่ากลัวที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเอง
ใช้โอกาสนี้ในการบอกใครซักคนที่มี ความหมายกับคุณ
คว้าเอาไว้แล้วจะไม่เสียใจ

..............................

สิ่งสำคัญที่ สุด อยู่ใกล้ๆ กับเพื่อนและครอบครัว
สำหรับการที่พวกเค้านั้นทำให้คุณกลายมา เป็นคุณในวันนี้
บอกความรู้สึกซะ ให้เกิดความแตกต่างขึ้นในวันของคุณและ เค้า

....................

ความแตกต่างระหว่าง การแสดงความรัก และการเสียใจ คือ
การเสียใจอาจจะอยู่ตลอดไป
ภายใน 1 ชม. คุณต้องส่งเมล์นี้ให้คนอื่น
เพื่อให้เค้าได้รู้ว่าเค้ามีความหมายสำหรับคุณ นะ
ถ้าคุณกำลังยุ่งละก้อ.. คิดซะว่าใช้เวลาแค่ 2-3 นาทีเองน่า..
ที่จะ บอกความรู้สึกนี้ออกไป มันจะดีกว่าเยอะเลยนะ

เป็นไงค่ะได้ความรู้กันบ้างรึป่าว แต่ก็แล้วแต่วิจาราณญาณของแต่ละบุคคลว่าจะเห็นด้วยกับวิธีนั้นๆหรือไม่

ซื้งเลย T^T



http://www.pg.in.th/blog/view/2399

cradit:

ผัง

User Name:
Password: